เครื่องชั่งน้ำหนักนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนลดน้ำหนัก ที่ไม่ค่อยมีความเข้าใจต่อหลักการในการลดน้ำหนักอย่างแท้จริง พยายามที่จะจดน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกเช้าที่ตื่นนอนอย่างเป็นกิจวัตรเพื่อให้ทราบผลว่า น้ำหนักตัวลดลงหรือเพิ่มขึ้นหรือไม่ เมื่อไหร่ที่เห็นน้ำหนักบนตาชั่งเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งกังวลใจและเกิดความสงสัยกับการลดน้ำหนักของตัวเอง กลายเป็นการตั้งคำถามว่า…

ทำไมออกกำลังกายเท่าไรน้ำหนักก็ยังไม่ลดลงซะที..
ความเชื่อแบบนี้ควรควรโละมันออกจากสมองไปให้หมดสิ้นเลย ก่อนที่มันจะเข้าไปทำลายความตั้งใจในการลดความอ้วนของคุณจนไม่อยากออกกำลังกายแล้ว จากนั้นลองตั้งสติให้ดี มาทำความเข้าใจใหม่กับการลดน้ำหนักที่เราทำอยู่ทุกวันนี้อย่างถูกต้องก็คือ “การลดไขมัน” ไม่ใช่ “การลดน้ำหนัก” ซึ่งมันจะไม่มีผลเกี่ยวข้องกับเลขบนตาชั่ง และไม่จำเป็นต้องไปขึ้นชั่งน้ำหนักให้เสียอารมณ์อีกต่อไป

ลดน้ำหนักกับการลดไขมันต่างกันอย่างไร
การลดน้ำหนักคือ “การลดน้ำหนักของร่างกายโดยรวมทั้งหมดให้เบาลง” ซึ่งมันจะรวมไปถึงน้ำหนักจากน้ำในร่างกาย ของเสีย อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ไขมัน และกล้ามเนื้อด้วย ดังนั้นหากเราใช้วิธีชั่งน้ำหนักเป็นตัวกำหนด จะสังเกตได้ว่าแค่กินน้ำเข้าไปสัก 2-3 แก้ว น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นได้อย่างง่ายๆ แล้ว เพราะฉะนั้นตัวเลขบนตาชั่งจึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัววัดในการลดน้ำหนักที่ถูกต้องได้เลย แต่เป็นเพียงแค่ตัวช่วยเสริมเพื่อให้เราทราบถึงน้ำหนักมวลรวมที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น
การลดไขมันคือ การลดน้ำหนักอย่างถูกต้องมากที่สุด เพราะเป้าหมายในการออกกำลังกายและควบคุมอาหารของเราก็เพื่อกำจัดไขมันออกไป แล้วแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็กและกระชับมากกว่า แม้จะเทียบในสัดส่วนน้ำหนักที่เท่ากัน แต่ด้วยไขมันเป็นของเหลวมันจึงมีขนาดใหญ่ ส่วนกล้ามเนื้อจะเล็กกว่าเป็นสองเท่าตัว

ดังนั้นเมื่อต้องการลดน้ำหนักคุณต้องกำจัดไขมันออกไป แม้น้ำหนักจะไม่ลดลง แต่หากร่างกายมีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน คุณก็จะสามารถมีสัดส่วนที่กระชับและผอมเพรียวได้ แล้วลืมเรื่องของตัวเลขบนตาชั่งไปได้เลย เพราะบางคนที่มีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน จะมีน้ำหนักตัวมากกว่าบางคนที่มีไขมันมากกว่า และคนที่มีไขมันมากรูปร่างยังดูอวบอ้วนไม่กระชับกว่าอีกด้วย
จบเคลีย/// 2